เครื่องดื่มคลอโรฟิลล์หรือน้ำสีเขียวที่กำลังเป็นที่นิยมในตอนนี้ในหมู่ดารา-นักแสดงและวัยรุ่นดื่มเป็นประจำทุกวันทำให้ผิวพรรณใส

- ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงทำให้ภาวะโลหิตจางดี ขึ้นฟอกเลือดให้สะอาด
- ช่วยลด สิว ฝ้า ลดรอยดำคล้ำรอบดวงตาและใบหน้าหมองคล้ำ ช่วยให้ผิวพรรณสดใส
- ลดอาการภูมิแพ้ ผื่นลมพิษ แพ้อากาศ โรคหอบหืด
- ช่วยลดอาการปวดประจำเดือน ปวดศีรษะ ปวดไมเกรน
- ลดปัญหาเส้นเลือดหัวใจตีบตัน ลดปัญหาเส้นเลือดขอด
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเส้นเลือด
- ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น
- เป็นตัวอนุมูลอิสระ ป้องกันมะเร็ง
- ช่วยแก้ปัญหากระเพาะลำไส้อักเสบ ช่วยสมานแผลเปื่อย
- รักษาแผลอักเสบ แผลเปื่อย แผลถลอก แผลโดนไฟ
- เหงือกอักเสบ หรือแผลในปาก ทำให้หายเร็วขึ้น
- ช่วยดับกลิ่นตัว กลิ่นปาก กลิ่นเท้า ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
- ปรับสมดุลกรดด่าง ในโรคเกาต์ รูห์มาตอยด์ เบาหวาน แผลริดสีดวง
- ช่วยขจัดสารพิษในเลือด ตับ ไต
- ช่วยฟื้นฟูการทำงานของตับ
- ปรับสมดุลให้กับร่างกาย เสริมภูมิต้านทานให้กับร่างกาย
วิธีรับประทาน
- ผสมผงคลอโรฟิลล์ 1 ช้อนชากับน้ำ 250 - 500 ซีซี เขย่าหรือคนให้เข้ากับน้ำธรรมดาจนเป็นสีเขียวมรกต ดื่มแทนน้ำประจำ ทำให้ผิวพรรณสดใส สุขภาพดี
- ผู้ที่ชอบรสหวานสารมารถเติมน้ำผึ้งได้
- ควรดื่มวันละ 1-2 ลิตร จะเห็นผลชัดเจน
- เด็กและผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับผักควรเริ่มดื่มจาง ๆ
คำแนะนำ
ผู้ที่เป็นโรคไทรอยด์ SLE โรคธารัสซีเมีย ควรเริ่มทดลองดื่มทีละน้อย ๆ และจาง ๆ ก่อน

ทำไมจึงต้องทานคลอโรฟิลล์ ดีอย่างไรหรือ?
แหล่งที่มาของคลอโรฟิลล์
องค์การอาหารและยาสหรัฐ ได้ให้การรับรองเฉพาะคลอโรฟิลล์ที่ละลายในน้ำได้เท่านั้น ปลอดภัยต่อการบริโภคของมนุษย์ และคลอโรฟิลล์ที่ดีที่สุดก็จะต้องมาจากต้น อัลฟาฟ่า (alfafa) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งสมุนไพร อัลฟาฟ่ามีรากที่หยั่งลึกลงในดินยาวถึง 130 ฟุต จึงทำให้สามารถดูดซึมแร่ธาตุที่สำคัญต่างๆได้อย่างมากมาย อีกทั้งยังมีระบบป้องกันตัวเองจากสารพิษได้ดีกว่าพืชชนิดอื่นๆ อัลฟาฟ่า เป็นพืชที่ให้กรดอะมิโนที่จำเป็นครบทั้ง 8 ชนิด ได้แก่ กรดอะมิโน ไอโซลิวซีน ลิวซีน ไลซีน เมไธโอนีน พีนินอะลานิน เทรโอนิน ทริปโตฟาน และวาลีน นอกจากนี้ในอัลฟาฟ่ายังอุดมไปด้วยวิตามินเอ บี6 ดี อี เค เกลือแร่ฟอสฟอรัส โปแตสเซียม และแคลเซียม สังกะสี เซเลเนียม และแมกนีเซียม มีเอมไซม์ 8 ชนิด ได้แก่ ไลเปส อะไมเลส โคกูเลส อิมูลซิน อินเวอร์เตส เปอร์ออกซิเดส เพคติเนส โปรตีเอส แพทย์จีนโบราณนิยทใช้อัลฟัลฟ่า ในการรักษาความผิดปกติของทางเดินอาหาร
ความสำคัญของคลอโรฟิลล์
ด้วยโครงสร้างโมเลกุลของคลอโรฟิลล์ที่ใกล้เคียงกับโมเลกุลของเม็ดเลือดแดง ของมนุษย์ ต่างกันก็แค่แกนกลางของคลอโรฟิลล์เป็นแมกนีเซียม(Mg) จึงทำให้มีสีเขียว แต่แกนกลางเม็ดเลือดแดงของคนเราเป็นเหล็ก (Fe) จึงเป็นสีแดง จุดนี้เองทำให้คลอโรฟิลล์ถูกเรียกว่า เลือดของพืชผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์การแพทย์สรุปออกมาตรงกันว่า คลอโรฟิลล์สามารถกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงได้ส่งผลให้อัตราการเพิ่มของ เม็ดเลือดมีมากขึ้น ทำให้เลือดรับออกซิเจนมากขึ้น จึงทำให้เลือดสะอาดขึ้น และเมื่อเลือดของเราสะอาดด้วยปริมาณออกซิเจนที่มากขึ้น ทำให้โรคภัยไข้เจ็บต่างๆลดลง รวมไปถึงอาการปวดต่างๆของร่างกาย นอกจากนี้คลอโรฟิลล์ยังมีคุณสมบัติในการจับสารพิษ หรืออนุมูลอิสระในร่างกายและจะขับออกมาทางอุจาระ ปัสสาวะ หรือ ทางเหงื่อ
เรื่องน่ารู้จากคลอโรฟิลล์
(phyllon) แปลว่าใบไม้คลอโรฟิลล์เป็นวัตถุสีเขียวในพืช เมื่อสังเคราะห์แสงคลอโรฟิลลืจะมีความสามารถเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ และแร่ ธาตุจากดินให้กลายเป็นพลังงานและสารอาหารสำหรับการดำรงชีวิต รวมทั้งให้ก๊าซออกซิเจนแก่มนุษย์และสัตว์โครงสร้างโมเลกุลของคลอโรฟิลล์ใกล้ เคียงกับของเม็ดเลือดแดง ต่างกันที่ คลอโรฟิลล์มีธาตุแมกนีเซียมส่วนเลือดมีธาตุเหล็กจึงมีสีแตกต่างกันUSFDA ให้การรับรองเฉพาะคลอโรฟิลล์ที่ละลายน้ำได้เท่านั้น ว่าปลอดภัยต่อการบริโภคของมนุษย์อนุพันธ์ของคลอโรฟิลล์ที่ละลายน้ำได้ นิยมใช้ในผลิตภัณฑ์ ดับกลิ่น ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปากและน้ำยาทำความสะอาด
ในอดีต มีการใช้คลอโรฟิลล์ในการรักษาโรคระบบย่อยอาหารกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงมีคุณสมบัติในการป้องกันการอักเสบและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
คลอโรฟิลล์ช่วยอะไรคุณได้บ้าง?
ประโยชน์การกิน :
สินค้าหญ้าอัลฟาฟาทั่วไปตามท้องตลาด จะนำมาบดทำคลอโลฟิลล์เลย แต่ของ ยูนิซิตี้ จะสกัดเอาแต่สาร ที่จำเป็นต่อร่างกาย และไม่มีผลเสียต่อร่างกายมาใช้เท่านั้นหญ้าอัลฟาฟามีโครงสร้างของโมเลกุลที่ ใกล้เคียงกับโมเลกุลของเม็ดเลือดแดงต่างกันเฉพาะตรงกลาง ที่คลอโรฟิลล์มีแมกนีเซียม(Mg) และเม็ดเลือดแดงมีเหล็ก ( Fe) จึงทำให้สีต่างกัน คือ คลอโรฟิลล์มีสีเขียว แต่เม็ดเลือดแดงมีสีแดง ซึ่งแมกนีเซียมจะเข้าไปอุดรูพรุนของกระดูกต่างๆ ทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น และมีการสร้างเม็ดเลือดแดงได้ในปริมาณที่มากขึ้น เหตุนี้ คลอโรฟิลล์จึงมีประโยชน์ ดังนี้
• ทำให้สดชื่น หายเหนื่อยจากการอ่อนเพลีย
• เพิ่มประสิทธิภาพเม็ดเลือดแดงและเซลล์เม็ดเลือดแดง ทำให้ระบบเลือดไหลเวียนดี
• แก้ปัญหาเรื่องสิว ฝ้า ปวดประจำเดือน และประจำเดือนมาไม่ปกติ
• ลดความดันโลหิต ลดปัญหาเส้นเลือดหัวใจตีบ
• ปรับระดับน้ำตาลสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน
• ทำให้อาการโรคภูมิแพ้ แพ้อากาศ ผื่นลมพิษ ทุเลาลง
• ขับกรดจากข้อต่างๆ ทำให้อาการปวดข้อ ปวดเมื่อยตามตัวทุเลา
• ขับสารพิษออกจากร่างกาย เช่น สารตกค้างของยาปฎิชีวนะ สารเคมีตกค้างในอาหาร
• ป้องกันการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
• แก้ปัญหาท้องผูก การขับถ่ายจะดีขึ้น ริดสีดวงทวารทุเลาและหายได้
• ช่วยดับกลิ่นตัว กลิ่นปาก และ กลิ่นเท้า
• บรรเทาอาการชา บวม และเส้นเลือดขอดให้ทุเลาได้
• ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ใช้รักษาแผลอักเสบ แผลเปื่อย แผลเรื้อรัง แผลถลอก เหงือกอักเสบ แผลในปาก
• บรรเทาอาการปวดศีรษะทั่วไป และปวดศีรษะไมเกรนได้
• ช่วยให้ผู้ที่เป็นต้อกระจกมองเห็นดีขึ้น
• มีสารอาหารที่บำรุงเส้นผม ทำให้ผมหงอกดำขึ้น ช่วยลดอาการผมร่วง
• สำหรับคนที่เป็นโรคเบาหวานจะช่วยล้างน้ำตาลในเลือด และช่วยให้แผลแห้งเร็วขึ้น ดีขึ้น
ต้นหญ้าอัลฟาฟ่า ซึ่งมีรากยาว 130 ฟุต จึงมีประสิทธิภาพในการดูดซึมอาหารได้มาก และไม่สะสมสารพิษ
จะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์คลอโรฟิลล์อย่างไรให้ถูกต้อง?
การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์คลอโรฟิลล์
ได้ยินมานานเหลือเกินที่เค้าว่าคลอโรฟิลล์ที่แท้ก็ผสมแป้งธรรมดา วันนี้จึงขอโอกาสชี้แจงเรื่องที่ใครๆเค้าลือกันดังนี้ สมดุลของความเป็นกรดและด่างในร่างกายของมนุษย์ ปกติจะมีค่าความเป็นกรด-ด่างของเลือดเท่ากับ 7.35-7.45 ซึ่งมีสภาวะเป็นกลางหรือเป็นด่างเล็กน้อย แต่จากขบวนการในร่างกาย เช่น การย่อยอาหาร จะได้กรดอะมิโนจากอาหารประเภทโปรตีน กรดไขมันจากอาหารประเภทไขมัน และอื่นๆทำให้เลือดมีสภาพเป็นกรดเพิ่มขึ้น คลอโรฟิลล์จึงช่วยรักษาสมดุลให้เลือดได้ ทำให้การกระจายตัวของเม็ดเลือดดีขึ้นด้วย การละลายของออกซิเจนในเลือดก็เพิ่มขึ้น ความสามารถของคลอโรฟิลล์ไม่ได้วัดที่ความบริสุทธิ์หรือปนเปื้อนจากแป้งนะ ครับ เนื่องจากการผลิตจากธรรมชาติ มีมอลโตเด๊กตริน ทำให้การดูดซึมของคลอโรฟิลล์ค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้ยังอาจพบผลข้างเคียงด้วย ถ้าคลอโรฟิลล์เข้าสู่กระแสเลือดมากหรือเร็วเกินไป การออกฤทธิ์แบบเร็ว และ ปริมาณมากจะทำให้เกิดอาการผิดปกติได้มากด้วย ผลจากการใช้เป็นการวัดผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติได้ดีกว่า การปรับเปลี่ยนสูตรด้วยหลักการใส่สารอาหารที่มีฤทธิ์ตรงกันข้าม หรือทำให้สภาวะของเลือดกลับเป็นกรดอีก อาจจะไม่เกิดประโยชน์เท่าเดิม หรือน้อยกว่าเดิมได้ เราต้องการผลของการเพิ่มออกซิเจนมากกว่าแล้วยังต้องระวังปริมาณที่จะรับ ประทานอาจทำให้ผิดปกติได้ ถ้าต้องการปริมาณเพิ่มเพื่อออกซิเจน ที่สำคัญมาตราแหล่งวัตถุดิบสำคัญมากเพราะแหล่งผลิตที่ดีไม่ควรมีสารพิษตก ค้าง ในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นที่ปลอดสารพิษจากดินที่ใช้ปลูก ทำให้มั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัย มาตราฐานการผลิตระดับโลก
ทำไมต้องกิน :
อาหาร ที่เรากินปัจจุบันเต็มไปด้วยสารเคมี เช่นไก่มีฉีดฮอร์โมน หมูมีใช้สารเร่งเนื้อแดง อาหารทะเลแช่ไฮโดรเจน ฟอร์มาลีน อากาศ ปัจจุบันอากาศมีมลพิษสูงมาก คาร์บอนมอนนอกไซค์ สารตะกั่วและโลหะหนัก และมีออกซิเจนเหลืออยู่เพียง 20% ยาทื่ใช้ในการบำบัดรักษาโรคต่างๆ หากกินติดต่อกันนานๆ จะทำให้เกิดสารพิษตกค้างในร่างกาย ทำให้ตับและไตทำงานหนักเพราะร่างกายสามารถขับออกทางเหงื่อและปัสสาวะได้ เพียง 30-40 เปอร์เซ็นต์
สนใจติดต่อ086-5792446

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น